คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer - assisted Instruction - CAI)
CAI ย่อมาจากคำว่า COMPUTER-ASSISTED หรือ AIDED INSTRUCTION
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) หมายถึง สื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสมอันได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟฟิก แผนภูมิ กราฟ วิดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียน หรือองค์ความรู้ในลักษณะที่ ใกล้เคียงกับการสอนจริงในห้องเรียนมากที่สุด
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) หมายถึง สื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสมอันได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟฟิก แผนภูมิ กราฟ วิดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียน หรือองค์ความรู้ในลักษณะที่ ใกล้เคียงกับการสอนจริงในห้องเรียนมากที่สุด
ประเภทของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์สามารถนำมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนได้หลายวิธี ผู้สอนจำเป็นต้อง เข้าใจลักษณะและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะสามารถเลือกนำมาใช้ในการเรียนได้อย่างเหมาะสม คอมพิวเตอร์ช่วยสอนสามารถแยกประเภทออกได้ดังนี้
1. โปรแกรมเพื่อการฝึกหัดและปฏิบัติ (Drill and Practice) เป็นโปรแกรมที่ผู้เรียนจะได้ลองทำแบบฝึกหัดหลังจากได้เรียนเนื้อหาหลักการหรือทฤษฏีไปแล้ว
2. โปรแกรมเพื่อการสอน (Tutorial) เป็นโปรแกรมที่ผู้เรียนจะศึกษาเนื้อหาใหม่โดยตรง จากคอมพิวเตอร์แทนการเรียนจากผู้สอน
3. โปรแกรมจำลองสถานการณ์ (Simulation) เป็นการจำลองสถานการณ์จริงที่จะให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แทนการปฏิบัติการในสถานการณ์จริง เช่น โปรแกรมการฝึกหัดบินของนักบิน ฯลฯ
4. เกมทางการศึกษา (Educational Games) เป็นลักษณะเกมที่สอดแทรกเนื้อหาอยู่ภายในกิจกรรมของเกมนั้น ๆ ทำให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกสนานไปด้วย
5. โปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา (Problem Solving) เป็นโปรแกรมที่เสนอปัญหา และข้อมูลเพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวในการแก้ปัญหา เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นเทคโนโลยีใหม่ซึ่งต้องอาศัยผู้มีความเข้าใจในการทำงานของ คอมพิวเตอร์ตลอดจนมีราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นคอมพิวเตอร์จึงมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดในการนำมาใช้ในการเรียนการสอน
ข้อดีของ CAI
2. โปรแกรมเพื่อการสอน (Tutorial) เป็นโปรแกรมที่ผู้เรียนจะศึกษาเนื้อหาใหม่โดยตรง จากคอมพิวเตอร์แทนการเรียนจากผู้สอน
3. โปรแกรมจำลองสถานการณ์ (Simulation) เป็นการจำลองสถานการณ์จริงที่จะให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แทนการปฏิบัติการในสถานการณ์จริง เช่น โปรแกรมการฝึกหัดบินของนักบิน ฯลฯ
4. เกมทางการศึกษา (Educational Games) เป็นลักษณะเกมที่สอดแทรกเนื้อหาอยู่ภายในกิจกรรมของเกมนั้น ๆ ทำให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกสนานไปด้วย
5. โปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา (Problem Solving) เป็นโปรแกรมที่เสนอปัญหา และข้อมูลเพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวในการแก้ปัญหา เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นเทคโนโลยีใหม่ซึ่งต้องอาศัยผู้มีความเข้าใจในการทำงานของ คอมพิวเตอร์ตลอดจนมีราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นคอมพิวเตอร์จึงมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดในการนำมาใช้ในการเรียนการสอน
ข้อดีของ CAI
1) ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนช้าหรือเร็วได้ ตามระดับความสามารถของตนเอง เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นสื่อการสอนรายบุคคลที่ดียิ่ง ดังนั้นผู้เรียนจะใช้เวลาเรียนแตกต่างกัน ตามความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน
2) ไม่จำกัดสถานที่เรียน ผู้เรียนไม่จำเป็นจะต้องมายังสถานศึกษา ผู้เรียนอาจจะเรียนอยู่กับบ้านผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้
3) สามารถเรียนจากสื่อประสม (Multi media) ความก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้เรียนสามารถอ่านข้อความ ดูรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว (animation) วีดิทัศน์ (Video) และฟังเสียงได้
4) การทราบผลการเรียนทันที คอมพิวเตอร์สามารถแจ้งและบันทึกผลการปฏิบัติได้ทันที ทำให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบความเข้าใจของตนเองว่าถูกต้องหรือไม่ อย่างไร
บทสรุป คอมพิวเตอร์เป็นนวัตกรรมการศึกษาที่มีการพัฒนาและนำมาใช้อย่างมากที่สุด ในช่วงระยะ 10 ปี ที่ผ่านมา มีการนำเอาคอมพิวเตอร์ไปใช้ในระบบบริหารและช่วยสอนอย่างมากมาย แต่เนื่องจากยังมีข้อจำกัดในด้านงบประมาณ บทเรียนที่มีคุณภาพและบุคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ดังนั้นคอมพิวเตอร์จึงยังคงต้องได้รับความเอาใจใส่ และพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงในทุกด้าน
บทสรุป คอมพิวเตอร์เป็นนวัตกรรมการศึกษาที่มีการพัฒนาและนำมาใช้อย่างมากที่สุด ในช่วงระยะ 10 ปี ที่ผ่านมา มีการนำเอาคอมพิวเตอร์ไปใช้ในระบบบริหารและช่วยสอนอย่างมากมาย แต่เนื่องจากยังมีข้อจำกัดในด้านงบประมาณ บทเรียนที่มีคุณภาพและบุคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ดังนั้นคอมพิวเตอร์จึงยังคงต้องได้รับความเอาใจใส่ และพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงในทุกด้าน
ที่มา : http://portal.in.th/inno-cholticha/pages/1898/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น