นวัตกรรม (Innovation)
eyeFeel แปลงคำพูด เป็นแอนิเมชั่นภาษามือ
การแข่งขัน “อิมเมจินคัพ 2010” (Imagine Cup 2010) ที่ประเทศโปแลนด์ ซึ่งถือเป็นเวทีการแข่งขันระดับโลกขนาดใหญ่อีกเวทีหนึ่ง ใน ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานได้จริงจากเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ โดยปีนี้มีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการกว่า 3 แสนคน จากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และมาจากประเทศไทยกว่า 2 พันคน ใน 150 โครงการ ซึ่งผู้ชนะเลิศการแข่งขันในระดับประเทศ (Thailand Imagine Cup 2010) คว้าถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีไปครอง และเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันระดับโลกในประเภทซอฟต์แวร์ ดีไซน์ (software Design) ก็คือทีม SKeeK จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ด้วยผลงานที่มีชื่อว่า “อายฟีล” (eyeFeel) ที่สามารถชนะใจกรรมการและตอบโจทย์แนวคิดการแข่งขัน ที่กำหนดไว้ในปีนี้ คือ “Ima- gine a world where tech nology helps solve the problems facing us to day” หรือการสร้างสรรค์โลกด้วยเทคโนโลยีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาที่มนุษย์ต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
ทีมนี้ประกอบไปด้วยนายกฤตธี ศิริสิทธิ์ นายพิชัย โสดใส นายธนะสรรค์ ดิลกพินิจนันท์ และนายนนทวรรธ ศรีจาด นิสิตจากรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์และความรู้
“กฤตธี” อธิบายถึง แอพพลิเคชั่นนี้ว่า เนื่องจากทั่วโลกมีคนที่มีปัญหาทางการได้ยินกว่า 300 ล้านคน แต่มหาวิทยาลัยที่สามารถให้การศึกษาขั้นสูงกับผู้มีปัญหาเหล่านี้ มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นคือที่มหาวิทยาลัย Gallaudet แห่งวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาและช่วยให้ผู้ที่พิการทางการได้ยินสามารถสื่อสารกับคนปกติได้ ทีมจึงพัฒนาแอพพลิเคชั่น อายฟีลขึ้น โดยพัฒนาระบบแปลงเสียงพูดหรือบทสนทนา และจับความเคลื่อนไหวของใบหน้าผู้พูด ให้เป็นตัวอักษรและภาษามือที่สร้างด้วยแอนิเมชั่นแบบเรียลไทม์
โดยผู้พูดสามารถพูดผ่านไมโครโฟนที่ตั้งอยู่หน้าเว็บแคม จากนั้นระบบก็จะจับใบหน้าผู้พูดและเสียงพูด และแปลงเป็นตัวอักษรและภาษามือ มีฟังก์ชั่นการทำงานเพิ่มเติมที่สามารถบันทึกเก็บเป็นไฟล์วิดีโอไว้ในคลังข้อมูล รวมถึงสามารถอัพโหลดขึ้นยูทูบได้
และถือว่าโครงการนี้เป็นการสร้างต้นน้ำและรากฐานของระบบนิเวศอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศไทยโดยรวม โดยเริ่มจากการสร้างคนก่อนที่จะต่อยอดในโครงการอื่น ๆ เพื่อสร้างเสริมนักพัฒนาซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ เพื่อให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ด้วยผลงานที่มีชื่อว่า “อายฟีล” (eyeFeel) ที่สามารถชนะใจกรรมการและตอบโจทย์แนวคิดการแข่งขัน ที่กำหนดไว้ในปีนี้ คือ “Ima- gine a world where tech nology helps solve the problems facing us to day” หรือการสร้างสรรค์โลกด้วยเทคโนโลยีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาที่มนุษย์ต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
ทีมนี้ประกอบไปด้วยนายกฤตธี ศิริสิทธิ์ นายพิชัย โสดใส นายธนะสรรค์ ดิลกพินิจนันท์ และนายนนทวรรธ ศรีจาด นิสิตจากรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์และความรู้
“กฤตธี” อธิบายถึง แอพพลิเคชั่นนี้ว่า เนื่องจากทั่วโลกมีคนที่มีปัญหาทางการได้ยินกว่า 300 ล้านคน แต่มหาวิทยาลัยที่สามารถให้การศึกษาขั้นสูงกับผู้มีปัญหาเหล่านี้ มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นคือที่มหาวิทยาลัย Gallaudet แห่งวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาและช่วยให้ผู้ที่พิการทางการได้ยินสามารถสื่อสารกับคนปกติได้ ทีมจึงพัฒนาแอพพลิเคชั่น อายฟีลขึ้น โดยพัฒนาระบบแปลงเสียงพูดหรือบทสนทนา และจับความเคลื่อนไหวของใบหน้าผู้พูด ให้เป็นตัวอักษรและภาษามือที่สร้างด้วยแอนิเมชั่นแบบเรียลไทม์
โดยผู้พูดสามารถพูดผ่านไมโครโฟนที่ตั้งอยู่หน้าเว็บแคม จากนั้นระบบก็จะจับใบหน้าผู้พูดและเสียงพูด และแปลงเป็นตัวอักษรและภาษามือ มีฟังก์ชั่นการทำงานเพิ่มเติมที่สามารถบันทึกเก็บเป็นไฟล์วิดีโอไว้ในคลังข้อมูล รวมถึงสามารถอัพโหลดขึ้นยูทูบได้
และถือว่าโครงการนี้เป็นการสร้างต้นน้ำและรากฐานของระบบนิเวศอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศไทยโดยรวม โดยเริ่มจากการสร้างคนก่อนที่จะต่อยอดในโครงการอื่น ๆ เพื่อสร้างเสริมนักพัฒนาซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ เพื่อให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ที่มา : http://www.trueplookpanya.com/true/sarapan_detail.php?cms_id=462